เล็กน้อยใช่เรื่องเล็ก

(โดย นางสาวนภัสสร ศรีสุข)

“ไม่เป็นไรหรอกพรุ่งนี้ค่อยทำ  ไม่เป็นไรหรอกเรื่องเล็กนิดเดียว  ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้จะมีผลอะไรต่อชีวิตกันเชียว”

ความคิดที่ว่า “ไม่เป็นไรหรอก” นำพาความทุกข์มาสู่ชีวิตเราได้อย่างมหันต์ เพียงแค่เรามองเรื่องเหล่านั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมา เช่น การสะสมการบ้าน หลายคนบอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไรพรุ่งนี้ค่อยทำ พูดแบบนี้ไปเรื่อยๆ

จนกลายเป็น “ดินพอกหางหมู” สะสมจนกลายเป็นหมูตัวใหญ่ ทำให้เป็นทุกข์ในใจอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับเรื่องราวในธรรมบทเรื่องภิกษุไม่รักษาบริขาร  ว่าด้วยเรื่องของภิกษุรูปหนึ่งที่เห็นบาปเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย หารู้ไม่ว่าเขากำลังสะสมความทุกข์ในใจให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามกันได้เลย…

เรื่องมีอยู่ว่า…

พระภิกษุรูปหนึ่งใช้บริขารต่างๆ (เครื่องใช้สอยของพระภิกษุในพระพุทธศาสนา) มีเตียงและเก้าอี้ เป็นต้น แล้วไม่เก็บให้เรียบร้อย ทำให้สิ่งของเครื่องใช้เหล่านั้นพัง เพราะฝนตกใส่บ้าง หรือมีปลวกมาเกาะกินบ้าง จากนั้นพระภิกษุรูปอื่นๆ ก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนภิกษุรูปนั้น แต่ภิกษุรูปนั้นตอบกลับมาว่า “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะเป็นอะไรไป  สิ่งของเหล่านั้นไม่ได้มีความงาม และไม่ได้มีจิตใจสักหน่อย” จากนั้นเหล่าภิกษุจึงไปบอกการกระทำดังกล่าวของภิกษุรูปนั้นให้พระศาสดาฟัง

เมื่อพระศาสดารู้เรื่องนี้เข้า ก็สั่งให้เรียกภิกษุรูปนั้นมาแล้วถามว่า “ได้ข่าวว่า ท่านทำแบบนั้นจริงเหรอ ?” แม้ว่าภิกษุรูปนั้นจะถูกพระศาสดาถามแล้ว ก็ยังตอบกลับอย่างดูหมิ่นว่า  “ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย  ข้าทำกรรมเพียงเล็กน้อย สิ่งของเหล่านั้นก็ไม่ได้มีจิตใจและความงดงามอะไรเลย” เมื่อพระศาสดาได้ฟังคำตอบแล้วก็สอนเหล่าภิกษุว่าอย่าดูหมิ่นกรรมชั่วว่ามันน้อยนิด แล้วจึงกล่าวสั่งสอนแก่พระภิกษุรูปนั้นว่า  “ภิกษุไม่ควรทำอย่างนั้น เพราะขึ้นชื่อว่าบาปกรรมแล้ว ก็ไม่ควรดูหมิ่นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย”  และพระองค์ก็ได้เปรียบเทียบบาปกรรมว่าเหมือนกับภาชนะที่เปิดปากตั้งไว้กลางแจ้ง  เมื่อฝนตกครั้งหนึ่ง น้ำในภาชนะย่อมไม่ได้เต็มเพียงแค่น้ำหยดเดียวแน่ๆ  แต่เมื่อฝนตกอยู่บ่อยๆ ภาชนะนั้นย่อมไปด้วยน้ำอย่างแน่นอน เมื่อบุคคลผู้ทำบาปกรรมอยู่เสมอ กองบาปก็ใหญ่โตขึ้นเป็นลำดับได้เหมือนกัน ”

จากนั้น  พระศาสดาได้กล่าวพระธรรมบท พระคาถานี้ว่า

อย่าดูหมิ่นบาปว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยแล้วมันจะไม่มาถึง

แม้แต่หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยดน้ำจากสายฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสายได้ ฉันใด

คนพาลสั่งสมบาป แม้ทีละน้อยๆก็จะเต็มด้วยบาป ฉันนั้น

ฉะนั้นแล้ว จะทำอะไรควรคิดหน้าคิดหลังให้ดีๆ อย่าคิดว่าทำบาปแค่นิดเดียวจะไม่เป็นไร เพราะถ้าทำบาปไปเรื่อยๆมันก็สะสมกลายเป็นบาปใหญ่ได้เหมือนกัน และเมื่อนั้นความทุกข์ระทมจะเกาะกินในใจเราตลอดเวลา