สระสนธิ

สระสนธิคืออะไร? คือการเชื่อมกันระหว่างกับสระ มีอุปกรณ์หรือเครื่องมือในการทำสนธิ 7 วิธี คือ โลปะ อาเทสะ อาคมะ วิการะ ปกติ ทีฆะ รัสสะ

แต่ละชนิดมีวิธีการอย่างไรบ้าง มาติดตามกันเลยจ้ะ

ก่อนอื่นดูตารางก่อนนะ

   

1.โลปะ ลบสระ มี 2 วิธี คือ

  • ลบสระหน้า มี 4 วิธี ได้แก่

-ถ้าสระหน้าเป็นรัสสะหรือเสียงสั้น สระหลังมีพยัญชนะสังโยค หรือ ทีฆสระ ให้ลบสระหน้าอย่างเดียว เช่น

ยสฺส + อินฺทฺริยานิ   เป็น     ยสฺสินฺทฺริยานิ

โนหิ + เอตํ          เป็น     โนเหตํ

สเมตุ + อานสฺมา    เป็น     สเมยตายสฺมา

-ถ้าสระทั้ง 2 มีรูปเสมอกัน ให้ลบสระหน้า แล้วทำหลังเป็นเสียงยาว เช่น

ตตฺร + อยํ           เป็น     ตตฺรายํ

-ถ้าสระทั้ง 2 เป็นรัสสระ มีรูปไม่เสมอกัน และสระหลังไม่มีพยัญชนะสังโยค ให้ลบสระหน้า ไม่ต้องทำสระหลังให้เป็นเสียงยาว เช่น

จตูหิ + อปาเยหิ     เป็น     จตูหปาเยหิ

-ถ้าสระหน้าเป็นทีฆะหรือเสียงยาว สระหลังเป็นรัสสะหรือเสียงสั้น และไม่มีพยัญชนะสังโยค ให้ลบสระหน้า แล้วจึงทำสระหลังให้เป็นเสียงยาว เช่น

สทฺธา + อิธ เป็น     สทฺธีธ

  • ลบสระหลัง มี 2 วิธี ได้แก่

-ถ้าสระทั้ง 2 มีรูปไม่เสมอกัน ให้ลบสระหลัง เช่น

จตฺตาโร + อิเม เป็น     จตฺตาโรเม

กินฺนุ + อิมา     เป็น     กินฺนุมา

-ถ้านิคหิตอยู่หน้า ให้ลบสระที่อยู่หลัง เช่น

อภินนฺทุ + อิติ   เป็น     อภินนฺทุนฺติ

 

2.อาเทสะ แปลงสระ มี 2 วิธี คือ

  • แปลงสระหน้า คือ ถ้ามี อิ เอ โอ อยู่หน้า ตามด้วยสระ ให้แปลง อิ เอ เป็น และ แปลง อุ โอ เป็น

-ถ้าพยัญชนะมีรูปเสมอกันซ้อนกันอยู่สองตัวก็ให้ลบออกตัวหนึ่งด้วย เช่น

วุตฺติ + อสฺส        เป็น     วุตฺยสฺส  (อิ เป็น ย)

เต + อสฺส            เป็น     ตฺยสฺส    (เอ เป็น ย)

พหุ + อาพาโธ    เป็น   พหฺวาพาโธ (อุ เป็น ว)

อถ + โข อสฺส      เป็น   อถขฺวสฺส  (โอ เป็น ว)

ปฏิสณฺฐารวุตฺติ + อสฺส  เป็น  ปฏิสณฺฐารวุตฺยสฺส (อิ เป็น ย และ ลบ ต ออกหนึ่งตัว)

  • แปลงสระหลัง ถ้าสระอยู่หน้า แล้วมี เอว ศัพท์อยู่หลัง ให้แปลง เอ ใน เอว เป็น ริ แล้วรัสสะสระหน้าให้สั้นลง เช่น

ยถา + เอว          เป็น     ยถริว

ตถา + เอว          เป็น     ตถาริว

3.อาคมะ คือการลงสระใหม่ มี 2 วิธี ได้แก่

ถ้าสระอยู่หน้า พยัญชนะอยู่หลัง ให้ลบ โอ แล้วลง อ อาคม เช่น

โส + สีลวา          เป็น     สสีลวา

โส + ปญฺญวา     เป็น     สปญฺญวา

เอโส + ธมฺโม      เป็น     เอสธมฺโม

ถ้าพยัญชนะอยู่หลัง ลง โอ อาคม (ได้บ้าง) เช่น

ปร + สหสฺสํ         เป็น     ปโรสหสฺสํ

 สรท + สตํ           เป็น     สรโทสตํ

4. ปกติ คงสระไว้ตามเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เช่น

  1. โก + อิมํ             เป็น     โก อิมํ

  1. วิการะ คือ แปลงสระหนึ่งให้เป็นอีกสระหนึ่ง มี 2 วิธี ได้แก่

วิการสระหน้า คือ เมื่อลบสระหลังแล้ว ให้แปลงสระหน้า คือ อิ เป็น เอ และ อุ เป็น โอ เช่น

มุนิ + อาลโย      เป็น     มุเนลโย  (ลบ อา ใน อาลโย แล้วแปลง อิ ใน มุนิ เป็น เอ)

สุ + อตฺถิ             เป็น     โสตฺถิ     (ลบ อ ใน อตฺถิ ก่อน แล้วแปลง อุ ใน สุ เป็น โอ)

วิการสระหลัง คือ ทำเหมือนวิการสระหน้า แต่ให้แปลงเฉพาะสระหลัง เช่น

มารุต + อิริตํ      เป็น     มารุเตริตํ

พุทฺธสฺส + อิว     เป็น     พุทธสฺเสว

+ อุเปติ           เป็น     โนเปติ

               อุทกํ + อูมิกชาตํ    เป็น     อุทโกมิกชาตํ     (ลบนิคหิตข้างหน้า แล้ว แปลง อู เป็น โอ)

  1. ทีฆะ ทำสระเสียงสั้นให้เป็นเสียงยาว มี 2 วิธี คือ

ทีฆะสระหน้า คือเมื่อลบสระหลังแล้ว ทำทีฆะสระหน้าบ้าง เช่น

โลกสฺส + อิติ       เป็น     โลกสฺสาติ

สาธุ + อิติ            เป็น     สาธูติ

ทีฆะสระหลัง คือเมื่อลบสระหน้าแล้ว ทำทีฆะสระหลังบ้าง เช่น

พุทฺธ + อนุสฺสติ   เป็น     พุทฺธานุสฺสติ

อติ + อิโต            เป็น     อตีโต

  1. รัสสะ ทำสระเสียงยาวให้สั้น มีหลักดังนี้ ถ้ามีพยัญชนะหรือ เอว ศัพท์อยู่หลัง ทำสระหน้าให้สั้นลง เช่น

โภวาที + นาม    เป็น     โภวาทินาม

ยถา + เอว          เป็น     ยถริว

ในส่วนสระสนธิก็ถือว่าจบแต่เพียงเท่านี้

พยายามอ่านและทำความเข้าใจอุปกรณ์การทำสนธิแต่ละอย่างให้ดี ที่สำคัญที่สุดคือตัวอย่างต่างๆ อย่าลืมเชียว

ข้อสอบมักจะถามในตัวอย่างนี่แหละจะบอกให้!!!